วันเสาร์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2550

นิทานพื้นบ้านลาว:เชียงเมี่ยงเอาควายไปชน

นิทานพื้นบ้านลาว:เชียงเมี่ยงเอาควายไป ชน

กาลครั้งหนึ่งนานมาเเล้ว เจ้าพระยาเเห่งเมืองทวาราวดีได้ใช้ให้ เสนาบดีไปตามเชียงเมี่ยง(เชียงเมี่ยงคือตัวละครเด่นในนิทานพื้นบ้าน ของลาว)ให้มาเข้าเฝ้าด่วน ฝ่ายเชียงเมี่ยงเมื่อได้รับคำสั่งจึงรีบมาเข้า เฝ้าเจ้าพระยาเเห่งเมืองทวาราวดีเเละได้ทูลถามเจ้าพระยาถึงจุดประสงค์ ของการติดตามตัวมาเข้าเฝ้าในครั้งนี้ เจ้าพระยาจึงตอบเชียงเมี่ยงไป ว่า"มึงนี่มีปฎิภาณไหวพริบดีหลาย ได้ยินผู้คนเขาล่ำลือมานานเเล้ว จึง อยากทดสอบอะไรบางอย่างกับเจ้า เจ้าพระยาจึงพูดต่อไปว่า"กูจะให้ เองมาพนันเเข่งขันกับกูในอีกสองสามวันข้างหน้านี้อยู่ที่สนามหลวง" หลังจากเชียงเมี่ยงได้ยินก็ถามกับไปว่า"อีกสองสามวันจะให้ข้าน้อยมา เเข่งขันอะไรกับพระองค์" เจ้าพระยาจึงตอบกับไปว่า"ให้เองไปหาควาย มาชนกับควายของกู"ฝ่ายเชียงเมี่ยงจึงได้ตอบกลับไปว่า"ในตอนนี้ข้าน้อย ยังบ่ทันมีควาย ขอให้พระองค์ให้เวลาเพิ่มอีกสัก20วันเพื่อหาควาย มาชน"ฝ่ายพระยาก็ตอบไปว่า "ให้เวลาเพิ่ม20วันก็ได้กูจะคอยท่า"ก่อนที่ เชียงเมี่ยงจะกลับได้ถามถึงกติการเเข่งขันซึ่งกติกาการเเข่งขันมีดังนี้คือถ้า ควายของเชียงเมี่ยงเป็นฝ่ายชนะเจ้าพระยาจะให้ควายเเก่เชียงเมี่ยงถ้า ควายของเชียงเมี่ยงเเพ้เชียงเมี่ยงจะถูกลงโทษ!!! จากนั้นเจ้าพระยาได้ให้ ลูกน้องไปป่าวประกาศให้ผู้คนรับรู้ไปทั่วเมืองถึงกำหนดการเเข่งขันชน ควายเพื่อให้คนมาเป็นสักขีพยานในการเเข่งขัน

หลังจากนั้นเชียงเมี่ยงได้ขอตัวกลับบ้าน  ต อนกลางคืนเชียงเมี่ยง นอนก็บ่หลับได้เเต่คิดเเล้วคิดอีกเพื่อหาทางว่าจะทำยังไงเพื่อให้ควายตัว เองชนะ ทันใดนั้นเองเชียงเมี่ยงก็คิดออกว่าจะชนะควายของเจ้า พระยาได้ยังไง ตื่นเช้ามาเชียงเมี่ยงรีบลุกขึ้นจากที่นอนกินข้าวกิน ปลาเสร็จเเล้วก็ออกเดินทางไปสู่หมู่บ้านต่างๆเที่ยวร้องถามชาวบ้านว่า ใครมีลูกควายเกิดใหม่จะขอซื้อเพื่อเอาไปถวายพระยาเชียงเมี่ยงเดินอยู่ นานสองนานเผอิญโชคดีไปพบบ้านหลังหนึ่งซึ่งเเม่ควายพึ่งจะออกลูก เชียงเมี่ยงจึงรีบขอซื้อทั้งเเม่ควายกับลูกควายกับเจ้าของควายในราคาพันชั่ง หลังจากได้ควายมาเชียงเมี่ยงก็จับเเม่ควายกับลูกควายขังเเยกคอกกัน ถึง เเม้ว่าลูกควายจะร้องขอกินนมเเม่ของมันด้วยความหิวโหยเเต่ เชียงเมี่ยงก็ บ่ยอมปล่อยให้ลูกควายไปกินนมกับเเม่ของมัน ควายเเม่ลูกถูกขังเเยกกัน เเละไม่ได้กินอะไรเป็นเวลาเกือบ10กว่าวัน

จนถึงเวลานัดหมายในการชนควายกับเจ้าพระยา ผู้คนหลั่งไหลไป ที่สนามชนควายเป็นจำนวนมากเพื่อจะไปดูการชนควายระหว่างควายของ เชียงเมี่ยงเเละควายของเจ้าพระยา  เจ้าพระยาได้สั่งให้นำควายลง สนาม ควายของเจ้าพระยาโตใหญ่กำยำอ้วนพีเป็นควายถึกมีเขาเเหลมเป็น ควายพันธุ์ดุ ดวงตาของมันเเดงกล่ำมองเเล้วน่ากลัวมาก พอมันลงสนาม มันก็เเสดงอาการขลึงขลังกระโดดไปมาเพื่อเเสดงว่าพร้อมสู้เต็มที่ เมื่อทุก คนได้เห็นควายของเจ้าพระยาต่างก็คิดว่างานนี้ควายของเชียงเมี่ยงไม่มี ทางชนะได้เชียงเมี่ยงคงถูกลงโทษเเน่ๆ พอได้เวลานำควายของ เชียงเมี่ยงลงสนามเเข่งเชียงเมี่ยงก็จูงลูกควายลงสนาม ผู้คนที่เห็นควาย ของเชียงเมี่ยงต่างอดเป็นห่วงไม่ได้เพราะควายเชียงเมี่ยงตัวเล็กนิดเดียว ยังกับควายเกิดใหม่เเละก็ ผอมจนเห็นซีกโครงขณะเดียวกันลูกควายก็ร้อง อยู่ตลอดเวลาเพื่อหาเเม่ของมันเพื่อกินนมเพราะมันบ่ได้กินนมมาตั้ง สิบกว่าวัน หลังจากควายทั้งสองฝ่ายพร้อมก็ทำการปล่อยควายทั้งสองลง สนามเพื่อชนกัน พอเริ่มต้นควายของเจ้าพระยาไม่รอช้าวิ่งกระโจนเข้าใส่ ลูกควายในทันทีส่วนลูกควายพอเห็นควายใหญ่ของเจ้าพระยาวิ่งเข้ามาหา ก็คิดว่าจะได้กินนมจึงวิ่งเข้าหาควายใหญ่ในทันทีเช่นกันเมื่อควายน้อยไป ถึงควายใหญ่ควายน้อยก็เอาหัวซุกเข้าหว่างขาควายใหญ่เพื่อซอกหาเต้านม เเละมันคิดว่าหำควายใหญ่เป็นเต้านมมันจึงดูดกินทำให้ควายใหญ่เกิดอา การจั๊กกระจี้มันจึงพยายามหนีเเต่ลูกควายน้อยก็เดินตามเพื่อซุกหัวเข้า หว่างขาควายใหญ่เพื่อหาเต้านมซึ่งสร้างความรำคาญให้กับควายของเจ้า พระยามากทำให้ควายใหญ่ทนไม่ได้ก็พยายามจะวิ่งหนีเเต่ควายน้อยก็ไม่ ยอมก็วิ่งตามควายใหญ่ไปทำให้คนดูคิดว่าควายน้อยของเชียงเมี่ยงไล่ชน ใหญ่ของเจ้าพระยาเเละคิดว่าควายใหญ่สู้ไม่ได้จึงวิ่งหนี ดังนั้นการ เเข่งขันชนควายทุกคนก็ยกให้ควายน้อยของเชียงเมี่ยงเป็นฝ่ายชนะพร้อม กันนั้นเจ้าพระยาก็มอบควายถึกตัวใหญ่ให้กับเชียงเมี่ยงตามกติกาที่ได้ ตกลงกันไว้จากนั้นเชียงเมี่ยงก็จูงควายทั้งสองตัวกลับบ้านเเละก็ปล่อยให้ ลูกควายน้อยดูดนมเเม่มันอย่างหนำใจ


This Article Is Presented By : ร้านขนม ดาวเรือง ช่องเม็ก@http://www.atchongmek.blogspot.com



ไม่มีความคิดเห็น: