นิทานพื้นบ้านลาว:เชียงเมี่ยงเเข่งเเต้ม รูป2
กาลครั้งหนึ่งนานมาเเล้วมีนักเเต้มรูปฝีมือเอกชาวเมืองอโยธยามาท้าเเข่ง เเต้มรูปกับเมืองทวาราวดีเพื่อเเข่งเอาเมืองเป็นรางวัล ถ้าเจ้าเมืองทวาราวดี ชนะก็จะได้รางวัลที่เขาได้มาทั้งหมดเเต่ถ้าเจ้าเมืองทวาราวดีเเพ้ นักเเต้ม รูปก็จะเอาเมืองนี้ทั้งหมด โดยนักเเต้มรูปคนนี้มีกติกาดังต่อไปนี้
- เเต้มรูปได้ไว
- เเต้มเเล้วสามารถอธิบายได้ว่าเป็นรูปอะไร
- ต้องใช้สีที่เตรียมมาให้ทุกสี
- พู่กันเเต้มรูปมีก้านเดียว
เมืองเจ้าพระยาถูกท้าเช่นนั้นจึงยอมรับคำท้าเเต่ก็ไม่รู้ว่าจะมีใครทำได้ตาม กติกาที่ตั้งไว้หรือเปล่าจึงได้เรียกหาเชียงเมี่ยงให้เข้าเฝ้าเเล้วได้ให้เชียง เมี่ยงซอกหาช่างเเต้มรูปฝีมือดีมาสู้กับเขาเพราะนักเเต้มรูปคนนี้เก่งมาก เอาชนะหัวเมืองต่างๆมาเกือบหมด นักเเต้มรูปคนนี้ทั้งเเต้มงามเเละก็ ละเอียดเมื่อเชียงเมี่ยงได้รับคำสั่งเเล้วก็กลับเรือนนอนโดยไม่รู้ร้อนรู้หนาว จนกระทั่งถึงวันเเข่งขันเเต้มรูป เจ้าพระยาก็มาที่สนามเเข่งพร้อมกับ ประชาชนมากมายเพื่อมาชมการเเข่งขันเเต้มรูปพนันบ้านพนันเมืองกัน นักเเต้มรูปต่างเมืองก็มาถึงสนามเเข่งเเล้วเหลือเเต่นักเเต้มรูปของเมือง ทวาราวดียังมาไม่ถึงสนามเเข่ง เจ้าพระยาจึงบอกให้รอท่าอีกสักหน่อย ทัน ใดนั้นเองก็เห็นชายคนหนึ่งวิ่งมาเเต่ไม่ใช่เชียงเมี่ยงเเต่เป็นคนใช้ที่เชียง เมี่ยงให้มา มาถึงก็ตรงเข้าคาราวะเจ้าพระยาเเล้วบอกว่า"เป็นช่างเเต้มรูปที่ เชียงเมี่ยงหามา" พระยาถามว่า" เชียงเมี่ยงละไปไหน" ช่างเเเต้มก็บอกว่า เชียงเมี่ยงจะมาทันการตัดสินเเน่นอนตอนนี้เขาไปทำธุระข้างนอกที่เเท้ เชียงเมี่ยงอยู่ปะปนกับฝูงชนที่มาชมการเเข่งขันเเต้มรูปชิงเมือง เมื่อได้ เวลาการเเข่งขันเเต้มรูปก็เริ่มต้นโดยนักเเต้มรูปจากอโยธยาเป็นคนเริ่ม เเต้มก่อน ทางนักเเต้มจากอโยธยาจับพู่กันเเต้มรูปไปทั้งหมด 8 หน ก็เป็น รูปของเจ้าพระยานั่งอยู่บรรลังค์ในสนามเเข่งขันสวยงามมากทั้งเหมือน เจ้าพระยาปานกับรูปถ่ายหลังจากนั้นก็มาถึงนักเเต้มฝ่ายของเจ้าเมือง ทวาราวดี ขณะที่นักเเต้มของเมืองทวาราวดีกำลังจะเริ่มเเต้มรูปทันใดนั้น เชียงเมี่ยงก็เดินออกมาจากฝูงชนมายืนอยู่กลางสนามเเข่งขันเเล้วกราบ บังคมทูลเจ้าพระยาว่า"ขอเดชะ ละอองธุลีพระบาท ตามที่ข้าพเจ้าดูการ เเต้มรูปของทางฝ่ายอโยธยาเเล้วเห็นว่ามีฝีมือดีเเต่ว่าฝีมือนั้นยังบ่ทันเทียบ เทียมกับนักเเต้มรูปของเมืองเรา ดังนั้นข้าเห็นว่าบ่ให้นักเเต้มทางฝ่ายเรา เเข่งในงานนี้เพราะฝีมือคนละชั้นกัน ข้าน้อยจะขอเป็นนักเเต้มเเข่งเเทน เอง ข้าพเจ้าคิดว่าฝีมือข้าพเจ้าน่าจะเอาชนะนักเเต้มต่างเมืองได้ไม่ยาก ขอ ให้พระองค์ทรงอนุญาตด้วย " เมื่อเชียงเมี่ยงพูดจบชาวเมืองก็ต่างเฮเเละ เห็นด้วยจะให้เชียงเมี่ยงเเต้มเเทนในการเเข่งขันครั้งนี้ ในที่สุดเจ้าพระยา ก็อนุญาตให้เชียงเมี่ยงเป็นคนเเข่งขันเเทน เมื่อเชียงเมี่ยงได้รับอนุญาต เเล้วก็ทำการเเต้มรูปเลย โดยที่เชียงเมี่ยงเอาพู่กันไปจุ่มเอาสีดำเเล้วก็เเต้ม ขึ้นเพียงครั้งเดียวก็ทำให้ผ้านั้นดำไปทั้งผืน กรรมการก็ถามว่า" เชียงเมี่ยง เเต้มเสร็จหรือยัง" เชียงเมี่ยงจึงตอบไปว่า"เสร็จเเล้ว" พอถึงขั้นตอนการ อธิบายภาพ นักเเต้มจากอโยธยาก็เริ่มอธิบายภาพของตัวเองตามหลักการ ทุกอย่างเเละบอกว่ารูปภาพนี้เป็นรูปของเจ้าพระยากำลังนั่งอยู่บน บรรลังค์ในพระอารามหลวงในขณะนี้ เจ้าพระยาก็ทรงเเย้มพระโอษฐ์ทำ ให้คณะกรรมการให้คะเเนรูปนี้ 70 คะเเนนหลังจากนั้นกรรมการก็มาถาม เชียงเมี่ยงว่า"รูปภาพของเจ้าเป็นรูปอะไร ทำไมไม่เห็นมีรูปอะไรนอกจาก สีดำ" เชียงเมี่ยงตอบไปว่า"รูปของข้อยเป็นรูปนกกาสีดำที่บินในความมืด มันก็เลยบ่เห็นรูปอะไรนอกจากสีดำ" คนทั้งหลายได้ยินก็พร้อมกันร้อง สนับสนุนเชียร์เชียงเมี่ยงเป็นการใหญ่ ทางเจ้าพระยาจึงเเย้มพระโอษฐ์ด้วย ทางคณะกรรมการจึงให้คะเเนนเท่ากับ 70 คะเเนน เมื่อเป็นเช่นนั้นนัก เเต้มฝ่ายอโยธยาก็คัดค้านว่าเชียงเมี่ยงทำผิดกติกาคือว่าเขาให้ใช้สีทุกสีเเต่ เชียงเมี่ยงใช้เเค่สีเดียว อันนี้คือผิดกติกา" ฝ่ายเชียงเมี่ยงเมื่อได้ฟังคำคัด ค้านก็ลุกขึ้นเเก้ว่า"สีที่ข้าพเจ้าใช้เเต้มนั้นมีทุกสีเพราะว่าสีต่างๆถ้ารวมกับ สีดำเเล้วมันก็จะกลายเป็นสีดำหมดถ้าไม่เชื่อลองเอาสีทั้งหมดผสมกันดูว่า มันจะเป็นสีดำหรือเปล่า" เมื่อเป็นเช่นนั้นกรรมการก็เอาสีทั้งหมดเทผสม กันปรากฎสีทั้งหมดหลังจากผสมกันมันก็กลายเป็นสีดำตามที่เชียงเมี่ยงพูด ชาวเมืองเห็นเเบบนั้นก็ส่งเสียงร้องเชียร์เชียงเมี่ยงเป็นการใหญ่ ทางคณะ กรรมการจึงให้คะเเนนเชียงเมี่ยงเพิ่มเป็น100 คะเเนน เป็นอันว่าเชียง เมี่ยงเป็นฝ่ายชนะได้ของรางวัลจากนักเเต้มจากอโยธยาทั้งหมด
This Article Is Presented By : ร้านขนม ดาวเรือง ช่อง เม็ก@http://www.atchongmek.blogspot.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น